top of page
ค้นหา
  • รูปภาพนักเขียนGlowfish

ไขข้อสงสัย โฮมออฟฟิศคืออะไร เหมาะกับธุรกิจแบบไหน

อัปเดตเมื่อ 15 ม.ค.

เมื่อพูดถึง “โฮมออฟฟิศ” หลายคนคงรู้จักหรือคุ้นหูกันดีอยู่แล้วแน่นอน เนื่องจากว่าปัจจุบันนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะในหมู่ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็กอย่างสตาร์ทอัปและ SME เพราะสามารถใช้เป็นได้ทั้งที่อยู่อาศัยและยังใช้เป็นสถานที่ทำงานได้ด้วย อย่างไรก็ตามบางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าการทำโฮมออฟฟิศนั้นคืออะไร หรือว่ามีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง ในบทความนี้จึงรวบรวมมาให้ได้ทำความเข้าใจกัน



โฮมออฟฟิศ (Home Office) คืออะไร?


โฮมออฟฟิศ คือ สำนักงานแบบกึ่งที่พัก โดยสำนักงานมักจะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับทาวน์โฮมที่ตัวอาคารจะมี 3-4 ชั้น ในการทำออฟฟิศก็จะเลือกใช้ชั้น 1-2 ในการนำมาทำเป็นสำนักงาน ส่วนชั้นที่เหลืออาจจะใช้เป็นสำหรับที่อยู่อาศัย ซึ่งส่วนที่ใช้เป็นสำนักงานก็จะมีการแบ่งสัดส่วนและโซนต่าง ๆ เอาไว้อย่างชัดเจน และจะไม่มีการปรับใหม่ทีหลังเหมือนกับทาวน์โฮม ที่สำคัญบริเวณอาคารจะต้องมีที่จอดรถกว้างขวางที่จะสามารถจอดรถได้หลายคันสักหน่อย ซึ่งเป็นออฟฟิศที่เหมาะมาก ๆ สำหรับการทำธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงขนาดกลางที่มีพนักงานน้อย


เปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสียของโฮมออฟฟิศ


การทำโฮมออฟฟิศนั้นคงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนในยุคนี้กำลังให้ความสนใจกัน เนื่องจากว่ามีข้อดีหลาย ๆ อย่าง แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างต้องมีสองด้านเสมอ การทำออฟฟิศในลักษณะนี้เองก็มีข้อเสียอยู่เช่นกัน ซึ่งข้อดีและข้อเสียของการทำออฟฟิศกึ่งที่พักก็มีดังต่อไปนี้


ข้อดี

  • สามารถใช้อาคารเป็นที่ทำงานและที่อยู่ได้ในที่เดียวกัน โดยการทำออฟฟิศในลักษณะนี้ จะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการมากทีเดียวในเรื่องของการที่ไม่ต้องไปเสียเงินสองต่อในการทำออฟฟิศและบ้าน อีกทั้งยังไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางไปกลับระหว่างที่ทำงานกับบ้านด้วย

  • การจอดรถสะดวกสบาย เนื่องจากว่าในการทำโฮมออฟฟิศ จำเป็นที่จะต้องมีที่จอดรถไว้รองรับพนักงานรวมถึงลูกค้าที่มาใช้บริการเอาไว้ด้วย ทำให้ในเรื่องของที่จอดรถก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปเพราะมีที่ให้จอดแน่นอน ส่วนใหญ่แล้วก็จะสามารถจอดได้ประมาณ 4-6 คัน

  • ลดต้นทุนส่วนกลางที่ต้องจ่ายให้อาคารสำนักงาน ส่วนใหญ่แล้วในการเช่าออฟฟิศจำเป็นที่จะต้องมีการจ่ายค่าส่วนกลางของอาคารที่เช่าด้วย แต่หากว่าใช้เป็นออฟฟิศแบบกึ่งที่พักนี้ก็จะช่วยประหยัดเงินในส่วนนี้ไปได้เยอะเลย

  • ส่วนกลางที่พนักงานสามารถใช้งานได้ เนื่องจากว่าโครงการโฮมออฟฟิศส่วนใหญ่มักจะมีบริการส่วนกลางให้อยู่แล้ว โดยอนุญาตให้พนักงานสามารถเข้าไปใช้บริการส่วนกลางต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ หรือว่าฟิตเนส ซึ่งพนักงานไม่ต้องออกเงินเพิ่มในการใช้บริการแต่อย่างใด

  • ลดค่าใช้จ่ายลงได้ เนื่องจากในการทำออฟฟิศจะต้องมีค่าใช้จ่ายจำเป็นที่ต้องจ่ายเป็นประจำทุกเดือนอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือว่าค่าอินเทอร์เน็ต หากว่ามีการเช่าออฟฟิศกับบ้านแยกกัน เจ้าของธุรกิจก็จำเป็นที่จะต้องจ่ายสองที่ทำให้เพิ่มค่าใช้จ่ายมากไปอีก แต่หากเจ้าของบ้านเลือกทำโฮมออฟฟิศและอาศัยอยู่ที่นั่นเลย ก็จะช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายเหล่านี้ให้ลดลงได้

  • บรรยากาศเป็นกันเองและการแต่งกายก็ยืดหยุ่นได้ เนื่องจากว่าเป็นออฟฟิศกึ่งที่พัก ทำให้บรรยากาศของที่ทำงานดูสบาย ๆ และในการแต่งกายเองก็ไม่จำเป็นต้องทางการมากมาย เพราะที่ทำงานมีพนักงานไม่กี่คน ทำให้รู้สึกเหมือนว่ากำลังทำงานที่บ้านอย่างไรอย่างนั้นเลย


ข้อเสีย

  • ความน่าเชื่อถือ โฮมออฟฟิศเป็นที่อยู่ที่ดูไม่เป็นทางการเท่าไหร่นัก ซึ่งอาจส่งผลกระทบกับความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของบริษัทได้ ต่างจากการเช่าสำนักงานทั่วไปที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของบริษัทให้ดูน่าเชื่อถือและมีความจริงจังมากกว่า

  • ที่ตั้งของออฟฟิศมักอยู่ชานเมือง โดยส่วนใหญ่แล้วโฮมออฟฟิศมักจะมีให้บริการอยู่ในทำเลแถว ๆ ชานเมืองมากกว่า และมักจะอยู่ห่างไกลจากรถไฟฟ้า อีกทั้งยังมักจะอยู่ในซอยต่าง ๆ ด้วย นั่นเพราะว่าเป็นที่ดินที่ราคาถูก จึงทำให้การเดินทางค่อนข้างลำบากเมื่อเทียบกับการทำงานในสำนักงานใหญ่ ๆ

  • ลงทุนเยอะกับเรื่องเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์สำนักงาน เนื่องจากว่าไม่ใช่ออฟฟิศแบบเช่าจึงไม่ได้มีอุปกรณ์อะไรไว้ให้บริการเลย เจ้าของธุรกิจจำเป็นที่จะต้องลงทุนเงินก้อนใหญ่ในการจัดหาเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์สำนักงานต่าง ๆ มาไว้ในสำนักงานเอง




โฮมออฟฟิศเหมาะกับธุรกิจแบบไหน?


สำหรับการทำโฮมออฟฟิศ ไม่ได้เหมาะกับธุรกิจทุกแบบแน่นอน เพราะธุรกิจบางประเภทก็อาจจะต้องใช้พื้นที่มากขึ้นอีก ดังนั้นธุรกิจที่เหมาะสมกับการทำออฟฟิศลักษณะนี้ ได้แก่


  • ธุรกิจออนไลน์ โดยเป็นธุรกิจที่เติบโตตามกระแสและในการทำธุรกิจก็ไม่จำเป็นจะต้องมีหน้าร้าน ทำให้สามารถทำงานด้วยการใช้โฮมออฟฟิศได้ ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งยากในการบริหารจัดการและลดค่าใช้จ่ายให้กับเจ้าของธุรกิจได้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้ระดับหนึ่งเลยด้วย

  • ธุรกิจสุขภาพและความงาม เป็นธุรกิจที่ถือว่าได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในยุคนี้ โดยไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัยธุรกิจแนวนี้ก็ยังได้รับความสนใจอยู่ ทั้งนี้ก็เป็นธุรกิจที่ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่อะไรเยอะแยะเลย ดังนั้นการทำออฟฟิศแบบกึ่งที่พักจึงเหมาะสมและเพียงพอต่อการเข้ามาใช้บริการของลูกค้าแล้ว

  • การทำอาชีพอิสระ ถือว่าเหมาะมากเช่นกันสำหรับการทำออฟฟิศแบบกึ่งที่พัก เนื่องจากว่าเป็นสถานที่ที่ทำขึ้นมาใช้เพื่อเป็นได้ทั้งที่พักและที่ทำงานในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังไม่ต้องยุ่งยากวุ่นวายในหลาย ๆ เรื่อง รวมถึงไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายมากมาย จึงช่วยตอบโจทย์ความต้องการได้ดี


สรุปบทความ


ทั้งหมดนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ได้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้นแล้วว่า โฮมออฟฟิศคืออะไร มีลักษณะอย่างไร และมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง รวมถึงยังช่วยให้ได้รู้ด้วยว่าธุรกิจแบบใดบ้างที่เหมาะสมกับการทำโฮมออฟฟิศ ซึ่งก็จะเห็นได้เลยว่าเป็นสำนักงานอีกหนึ่งรูปแบบที่น่าสนใจไม่น้อยเลย



ทั้งนี้หากคุณรู้สึกว่าธุรกิจของคุณยังไม่ใหญ่พอหรือยังไม่อยากทุ่มเงินไปกับการเช่าโฮมออฟฟิศ การเช่าที่อยู่จดทะเบียนบริษัทก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์อยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่า และไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลพื้นที่เหมือนโฮมออฟฟิศแล้ว ยังมีสัญญาที่ยืดหยุ่น สามารถเลือกเช่าได้ทั้งรายเดือนและรายปี อีกทั้งยังสามารถย้ายเข้า-ออกเมื่อไหร่ก็ได้โดยไม่เสียค่าย้าย และที่สำคัญคือ ช่วยสร้างตัวตนและภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือให้กับบริษัท และใช้ในการจดทะเบียนบริษัทหรือการจด VAT ได้ สำหรับคนที่สนใจสามารถเข้ามาติดต่อสอบถามเพิ่มเติมกับ Glowfish ได้เลย!

ดู 94 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page